COUNTDOWN (2019) MOVIE REVIEW COUNTDOWN

Countdown (2019) Movie Review Countdown

Countdown (2019) Movie Review Countdown

Blog Article

รีวิวหนัง Countdown (2019) เคาท์ดาวน์ตาย


ข้อมูลหนัง


ประเภทหนัง: ระทึกขวัญ และสยองขวัญ


ผู้กำกับ: Justin Dec


นักเขียน: Justin Dec


นักแสดงนำ: Elizabeth Lail, Jordan Calloway และ Talitha Eliana Bateman


Countdown-2019-Movie-Review-Countdown

เรื่องย่อ


ดูหนัง netflix Countdown (2019) เคาท์ดาวน์ตาย เรื่องราวเกิดขึ้นในงานปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสนุกสนาน คอร์ทนีย์ วัยรุ่นสาวกำลังสนุกกับเพื่อนๆ ของเธอ แต่แล้วความสนุกกลับกลายเป็นฝันร้าย เมื่อเพื่อนๆ ของเธอพากันเกลี้ยกล่อมให้ดาวน์โหลดแอป Countdown ที่ดูเหมือนจะสามารถทำนายได้ว่าผู้ใช้จะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน คอร์ทนีย์ยิ้มขันๆ กับมัน แต่เมื่อแอปแจ้งว่าเธอเหลือเวลาแค่เพียงสามชั่วโมงเท่านั้น เธอรู้สึกตกใจและกลัวจนไม่สามารถทำใจยอมรับได้

คอร์ทนีย์พยายามหลีกเลี่ยงการขึ้นรถกับแฟนหนุ่มที่เมามายอย่างอีวาน แต่ความโชคร้ายก็มาเยือน เมื่อแอปแจ้งเตือนว่าเธอละเมิด ข้อตกลงผู้ใช้ หลังจากนั้นไม่นาน คอร์ทนีย์กลับบ้านและถูกสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นโจมตี ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตทันทีเมื่อเวลาของเธอลงถึงศูนย์ น่าสะพรึงกลัวกว่านั้นคือในขณะที่คอร์ทนีย์เสียชีวิต อีวานก็ประสบอุบัติเหตุชนรถ และกิ่งไม้จากต้นไม้ทิ่มเข้ามาที่เบาะที่คอร์ทนีย์นั่งอยู่ก่อนหน้านั้น

ควินน์ แฮร์ริส พยาบาลสาวที่ทำงานในโรงพยาบาลเดียวกับอีวาน ปฏิเสธที่จะเชื่อว่าแอป Countdown มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ตัดสินใจดาวน์โหลดแอปนั้นเพื่อตรวจสอบด้วยตัวเอง และก็พบว่าเวลาของเธอเหลือเพียงแค่สองวันเท่านั้น คำทำนายจากแอปทำให้ควินน์รู้สึกวิตกกังวลและเริ่มไม่มั่นใจในชีวิตของตัวเอง ในขณะเดียวกัน อีวานที่ยังคงอยู่ในโรงพยาบาล ไม่ยอมเข้ารับการผ่าตัด และได้รับการแจ้งเตือนว่าเขาละเมิดข้อตกลงผู้ใช้ของแอป ขณะที่เขาพยายามหลบหนีจากโรงพยาบาล เขาก็พบกับวิญญาณของคอร์ทนีย์ที่บันไดก่อนที่จะถูกวิญญาณนั้นโจมตีและสังหาร

เมื่อควินน์พบว่าอีวานเสียชีวิตแล้ว เธอเข้าไปในห้องเก็บศพเพื่อตรวจสอบโทรศัพท์ของเขา ซึ่งพบว่าในแอปนั้นไม่มีเวลาหลงเหลืออยู่เลย ทำให้ควินน์เริ่มวิตกกังวลมากยิ่งขึ้น เธอตัดสินใจไม่ไปเยี่ยมหลุมศพของแม่และครอบครัว เพราะกลัวว่าเธอจะตายภายในเวลาไม่กี่วัน หลังจากนั้นแอปแจ้งเตือนว่าควินน์ได้ละเมิดข้อตกลงการใช้งานไปแล้ว และไม่นานหลังจากนั้น หัวหน้าของเธอ ดร. ซัลลิแวน ก็เริ่มคุกคามเธอทางเพศและพยายามขัดขวางความพยายามของเธอในการรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ควินน์เริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับแอป Countdown และพบว่ามีผู้ใช้หลายคนที่เสียชีวิตจากแอปนี้ในลักษณะเดียวกัน แต่ในตอนนั้นสังคมส่วนใหญ่ก็เชื่อว่าเป็นเรื่องโกหกหรือการแอบอ้าง เธอพยายามซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่เพื่อหนีจากคำทำนายของแอป แต่พบว่าแอป Countdown ได้ดาวน์โหลดตัวเองลงในโทรศัพท์ใหม่ของเธอแล้ว ระหว่างที่ควินน์เดินทางไปยังร้านขายโทรศัพท์เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงคำทำนาย เธอก็ได้พบกับชายหนุ่มชื่อแมตต์ ซึ่งพบว่าแอป Countdown ของเขาก็ทำนายว่าเขาจะตายในอีก 18 ชั่วโมงเช่นกัน เมื่อพวกเขาร่วมมือกัน พวกเขาพบว่า หากพยายามหลีกหนีชะตากรรมหรือเปลี่ยนแปลงสิ่งที่กำหนดไว้ในแอป จะทำให้ข้อตกลงการใช้งานของแอปถูกทำลาย

ควินน์และแมตต์เริ่มต้นการเดินทางเพื่อค้นหาวิธีที่จะยกเลิกคำสาปนี้และพบว่าแอปมีการเชื่อมโยงกับปีศาจชื่อ โอซิน ที่ถูกเรียกออกมาโดยหญิงสาวชาวโรมานีที่เคยทำนายการตายของคนอื่นๆ เมื่อพวกเขาค้นพบวิธีในการแฮ็คแอปและช่วยเพิ่มอายุขัยให้กับควินน์และแมตต์ พร้อมกับช่วยชีวิตน้องสาวของควินน์อย่างจอร์แดน พวกเขาก็พบว่าคำทำนายของพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่กลับพบว่าการนับถอยหลังของทุกคนกลับมาที่เดิม

เมื่อจอร์แดนได้รับการแจ้งเตือนว่าเธอเหลือเวลาแค่ไม่นาน เธอถูกปีศาจที่มาในรูปของแม่ของเธอและคอร์ทนีย์ข่มขู่ ควินน์และแมตต์ต้องเร่งหาวิธีป้องกันการโจมตีจากโอซิน ก่อนที่จะต้องเผชิญกับการสูญเสียอีกครั้ง ความตึงเครียดสูงขึ้นเมื่อควินน์ต้องตัดสินใจว่าเธอจะทำอะไรเพื่อยุติคำสาปที่ครอบงำชีวิตของเธอและคนรอบข้าง ในขณะที่ชีวิตของเธอและคนที่เธอรักกำลังถูกเดิมพันกับเวลาที่กำหนดไว้ในแอป Countdown

สุดท้าย ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ควินน์ใช้ความกล้าหาญในการพิสูจน์ว่าแอปนั้นผิด โดยใช้ยาเกินขนาดเพื่อพิสูจน์ว่าเวลาไม่จำเป็นต้องหมดลงตามคำทำนายจากแอป จากนั้นเธอก็ช่วยชีวิตจอร์แดนและยุติคำสาปนี้ได้ แต่ทว่าเมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะจบลงไปแล้ว กลับมีแอป Countdown 2.0 ดาวน์โหลดลงในโทรศัพท์ของควินน์และจอร์แดน ทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่ยังไม่สิ้นสุด ในช่วงเครดิตเดิมๆ มีการปรากฏตัวของเดเร็ค พนักงานขายโทรศัพท์มือถือ ที่ได้พบกับแอป Countdown และถูกปีศาจโอซินโจมตีในที่สุด

 

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์


2umv.com Countdown (2019) เคาท์ดาวน์ตาย ซึ่งเป็นหนังสยองขวัญที่เกี่ยวกับแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือที่สามารถบอกเวลาตายของผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำ กล่าวถึงกลุ่มนักศึกษาที่มาร่วมงานปาร์ตี้ต่างก็ได้พบกับแอปที่มีคำสัญญาว่าจะบอกเวลาที่คุณจะตาย ซึ่งในที่สุดก็เกิดเรื่องราวที่น่าสยดสยองขึ้น เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งพบว่าเวลาตายของเธอเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น โดยในขณะที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงอันตรายที่เห็นได้ชัด เช่น การไม่ขึ้นรถกับแฟนหนุ่มที่เมามาย ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่เธอหวัง ในขณะเดียวกันที่โรงพยาบาลท้องถิ่น พยาบาลใหม่ชื่อควินน์ แฮร์ริส (รับบทโดยเอลิซาเบธ ไลล์) ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับแอปจากแฟนหนุ่มของเธอ ซึ่งเป็นชายที่เมามายและกำลังจะตายภายในไม่ช้า หลังจากนั้นควินน์ก็โหลดแอปนั้นมาใช้ แต่พบว่าตัวเองกำลังจะตายในอีกไม่กี่วัน ขณะที่ในตอนแรกเธอยังไม่ค่อยสนใจนัก แต่เมื่อแฟนหนุ่มที่เมามายของเธอเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ และเธอไม่สามารถลบแอปออกจากโทรศัพท์ของเธอได้ เธอก็เริ่มเชื่อว่าแอปนี้อาจจะเป็นของจริง และเธอมีเวลาน้อยลงทุกที โดยเธอจำเป็นต้องหาทางรอดไม่ให้ตายตามเวลาที่แอปได้ทำนายไว้

ส่วนที่เหลือของหนังคือการแข่งกับเวลาของควินน์และคนรอบตัวเธอ เช่น น้องสาวของเธอ (รับบทโดยทาลิธา เอลิอานา บัตแมน) และหนุ่มหล่อชื่อแมตต์ (รับบทโดยจอร์แดน คัลโลเวย์) ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ได้รับโชคร้ายจากแอปนี้เช่นกัน พวกเขาทั้งสามต้องพยายามหาคำตอบและวิธีเอาชนะการตายที่กำหนดเอาไว้ให้ได้ ฉันจะไม่บอกว่าหนังจบลงอย่างไร แต่ต้องบอกว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ความชั่วร้ายเหนือธรรมชาติไม่ได้ถูกต่อสู้โดยบาทหลวงแก่ๆ หรือหนุ่มบวช แต่กลับเป็นการร่วมมือกันของบาทหลวงหนุ่ม (รับบทโดยพีเจ เบิร์น) และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี (รับบทโดยทอม เซกูรา)

แม้ว่าผู้อ่านหลายคนอาจจะมองว่า Countdown (2019) เคาท์ดาวน์ตาย เป็นเพียงแค่หนังสยองขวัญที่มีคุณภาพต่ำ แต่นั่นก็อาจจะไม่ผิดนัก แม้ว่าจะถูกมองว่าเป็นหนังประเภทที่ทำออกมาเพื่อฆ่าเวลาและตัดสินใจไม่ได้ว่าจะให้ความสำคัญกับการแสดงความคิดเห็นอะไรไปมากกว่าการสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชม แต่ผู้เขียนบทและผู้กำกับอย่างจัสติน เดค กลับดูเหมือนจะพยายามทำให้หนังเรื่องนี้มีความลึกซึ้งเกินไปในบางจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนแรกที่หนังเริ่มต้นด้วยการตีแผ่เกี่ยวกับการที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกด้านของชีวิตเรา แต่ในที่สุดหนังก็กลับกลายเป็นการลอกเลียนแบบ Final Destination อย่างโจ่งแจ้ง แม้ว่าจะไม่ได้โหดร้ายเท่าก็ตาม โดยกลุ่มตัวละครในเรื่องพยายามหาวิธีโกงความตายแต่สุดท้ายก็พลาดไปตามที่คาด

นอกจากนี้ยังมีบางช่วงในหนังที่ดูไร้สาระมากจนเกินไป เช่น การที่ตัวละครพยายามอธิบายว่ากลอุบายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของซาตานคือการโน้มน้าวให้คนเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องอ่านข้อตกลงและเงื่อนไขใดๆ ซึ่งมันดูเหมือนจะเป็นการพยายามตลกแบบไม่ค่อยประสบความสำเร็จ แน่นอนว่าเราอาจจะเห็นความพยายามของนักแสดงที่จะทำให้ตัวละครดูเหมือนกับนักแสดงจากหนังที่มีชื่อเสียง แต่การแสดงเหล่านั้นกลับไม่ได้ทำให้หนังดูดีขึ้นเลย ตัวละครบางตัวแทบจะเหมือนกับโคลนของนักแสดงดังๆ อย่างเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ และจอห์น บอยีกา แต่อย่างไรก็ตามการแสดงของพวกเขากลับไม่สามารถยกระดับหนังได้เลย

นอกจากนี้ยังมีตัวละครรองที่ไม่จำเป็นอย่างชัดเจน เช่น หมอที่รับบทโดยปีเตอร์ ฟาซิเนลลี ซึ่งในตอนแรกดูเหมือนจะเป็นตัวละครที่ดี แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นตัวร้ายที่พยายามข่มขืนควินน์เมื่อพวกเขาทั้งสองกำลังดูแลผู้ป่วยในอาการโคม่า และเมื่อควินน์พยายามยื่นเรื่องร้องเรียน เขาก็ใช้วิธีการกดดันให้โรงพยาบาลสั่งพักงานเธอ ซึ่งจุดนี้เหมือนจะพยายามนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว #MeToo แต่กลับทำได้ไม่ดีและไม่เหมาะสมกับบริบทของหนัง ทำให้มันกลายเป็นจุดที่รู้สึกขัดแย้งและไม่จำเป็นในเรื่องราว

โดยรวมแล้ว Countdown (2019) เคาท์ดาวน์ตาย ล้มเหลวในหลายๆ ด้านที่เป็นจุดเด่นของหนังสยองขวัญ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่ไม่น่าสนใจ เรื่องราวที่ไร้สาระ หรือความน่ากลัวที่แทบจะไม่มีอยู่เลย แม้ว่ามันจะเป็นหนังที่มีเรท PG-13 และพยายามสร้างบรรยากาศสำหรับการดึงดูดเด็กวัยรุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ก่อนวันฮัลโลวีน แต่มันกลับไม่สามารถทำให้ผู้ชมรู้สึกสนุกสนานหรือหลอนตามที่คาดหวังเอาไว้ได้เลย ข้อดีเพียงอย่างเดียวของหนังเรื่องนี้คือมันสามารถลืมได้ง่าย หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การดูหนังสยองขวัญจากโทรศัพท์มือถือแล้วล่ะก็ แนะนำให้ไปดู The Emoji Movie แทนจะดีกว่า

#ดูหนังฟรี #ดูหนังใหม่2024 #GeminiMan #เจมิไน แมน

กลับด้านบน

Report this page